หน่วยที่ 3
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
สารระสำคัญ
การเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นผลมาจากการที่มีแรงไปกระทำต่อวัตถุ
ทำให้วัตถุเปลี่ยนแปลงสภาพโดยเปลี่ยนตำแหน่งจากจุดที่
1
ไปยังจุดที่ 2 โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุจะทำให้เกิดปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่
เป็นขบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนตำแหน่งอย่างต่อเนื่องตามเวลาที่ผ่านไปโดยมีทิศทาง และระยะทาง ลักษณะทางการเคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงเป็นการเคลื่อนที่ที่ง่ายที่สุด
การเคลื่อนที่เกิดขึ้นเมื่อไร (WHEN
DOES MOTION OCCUR?)
เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ (moving object) เราสามารถแสดงตำแหน่ง (location) และความเร็ว (velocity) ของวัตถุในทุก ๆ หน่วยของเวลาได้ ในทางตรงข้ามเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ถึงตำแหน่งที่กำหนด หรือเคลื่อนที่ถึงความเร็วที่กำหนดก็สามารถทำนายเวลา (time
) (ยิ่งศักดิ์ นิตยฤกษ์,2549)
รูปภาพที่ 3.1แสดงผู้โดยสารรถไฟดูตารางเดินรถซึ่งช่วยให้เขารู้ว่าเมื่อไรรถไฟจะแล่นไปถึงสถานีที่เขากำหนดไว้
สาระการเรียนรู้
1.
ความหมายและปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่
2.
กฎการเคลื่อนที่
3.
การเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวเส้นตรงตามแนวราบ
4. การเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงของวัตถุภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก
จุดประสงค์การเรียนรู้
1.
อธิบายลักษณะของการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงได้
2. บอกความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ได้
3. คำนวณหาอัตราเร็ว ความเร็ว
ความเร่งของวัตถุได้
4. คำนวณหาความสัมพันธ์ของปริมาณต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงตามแนวราบได้
5. คำนวณหาความสัมพันธ์ของปริมาณต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกได้
กิจกรรมการเรียนรู้
1.
ทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่
3 พร้อมเฉลยใช้เวลา 10 นาที นำเข้าสู่บทเรียน
เรื่องการเคลื่อนที่
โดยการสนทนา เกี่ยวกับการเคลื่อนที่
2. ผู้สอนบอกจุดประสงค์การเรียนรู้
หน่วยที่ 3 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
3. ผู้เรียนศึกษาภาพเพื่อสรุปความหมายและความแตกต่างของระยะทางและการกระจัด
4.
ผู้เรียนศึกษากราฟการกระจัดกับเวลา, ความเร็วกับเวลา
และกราฟความเร่งกับเวลา และ
ผู้สอนอธิบายลักษณะของกราฟแต่ละประเภท
5. ผู้สอนเตรียมการสาธิตและให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ในเส้นตรงประกอบการสาธิตโดยเตรียมรถเด็กเล่นไขลาน
โดยทำการสาธิตการเคลื่อนที่ของรถเด็กเล่น ปล่อยให้รถวิ่งไปข้างหน้า
ให้ผู้เรียนสังเกตการสาธิต ถ้ามีเวลาอาจให้นักเรียนบางคนร่วม สาธิตด้วย
6. ผู้เรียนและผู้สอนอภิปรายและสรุปการเรียนรู้จากการสาธิต
ผู้สอนเชื่อมโยงเกี่ยวกับเงื่อนไขการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง เพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับปริมาณต่างๆ
ขณะวัตถุเคลื่อนที่แนวเส้นตรง และการคำนวณหาอัตราเร็ว ความเร็ว ความเร่งของวัตถุโดยใช้
PowerPoint ประกอบ
7. ผู้สอนแสดงความสัมพันธ์ของปริมาณต่างๆ
ขณะวัตถุเคลื่อนที่แบบเส้นตรง พร้อมยกตัวอย่างการใช้สูตรหาปริมาณต่างๆ โดยใช้ PowerPoint ประกอบ
8. ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม
4 – 5 คน ใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) พร้อมทั้งเลือกประธานกลุ่ม รองประธานกลุ่ม
เลขานุการกลุ่ม และสมาชิกกลุ่ม โดยสับเปลี่ยนหน้าที่ในการทำกิจกรรมกลุ่ม
9.
ผู้เรียนทำกิจกรรมการทดลองที่ 4.5.1
การตกอย่างอิสระ
10. ผู้สอนให้ความรู้ที่จำเป็นต่อการทดลอง
ให้ขั้นตอนและรายละเอียดในการทดลองแก่ผู้เรียน โดยใช้วิธีการต่างๆ ตามความเหมาะสม
11. ผู้เรียนลงมือทดลองตามขั้นตอนที่กำหนด
และบันทึกผลการทดลอง
12.
ผู้เรียนวิเคราะห์สรุปผลการทดลอง และนำแสนอหน้าชั้นเรียน ผู้สอนและผู้เรียนร่วมอภิปรายการทดลองตามแนวคำถามท้ายการทดลอง
สรุปการเรียนรู้
13.
ผู้สอนเชื่อมโยงความรู้จากการทดลองให้ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ของปริมาณต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกได้ ตัวอย่างการคำนวณโจทย์ปัญหาพร้อมทั้งให้ผู้เรียนฝึกแก้โจทย์ปัญหา
14. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ในแนวตรงและการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งในชีวิตประจำวัน
15. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนบทที่ 3 ตอน เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง จำนวน 12 ข้อ
โดยใช้เวลา 20 นาที และอธิบายเพิ่มเติมในส่วนที่เห็นว่าผู้เรียนส่วนมากไม่ผ่านการประเมิน เพื่อแก้ข้อสงสัย และความไม่เข้าใจของผู้เรียนเมื่อตรวจแบบทดสอบแล้วแจ้งคะแนนให้นักเรียนทราบ
เพื่อปรับปรุงแก้ไข
16.
ผู้เรียนทำแบบประเมินผลการเรียนรู้บทที่ 3 ตอนที่ 1,2 เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง โดยกำหนดส่งหลังจากวันที่มอบหมายภายใน 3
วัน
สื่อการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอนวิชาวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรม
2. Powerpoint วิชาวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรม
การวัดผลประเมินผล
วิธีวัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
2. การประเมินผลงานกลุ่ม
3.
ตรวจและให้คะแนนการทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 3
4.
ตรวจงานจากการทำแบบประเมินผลการเรียนรู้
5. สังเกตพฤติกรรมคุณธรรม
จริยธรรม ค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เครื่องมือวัดผล
1.
แบบสังเกตพฤติกรรม การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
2. แบบประเมินประเมินผลงานกลุ่มและการนำเสนอผลงาน
3.
แบบทดสอบหลังเรียนและแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 3
4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
2. เกณฑ์การประเมินประเมินผลงานกลุ่มและการนำเสนอผลงาน
ไม่น้อยกว่า 17 คะแนน
จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน
3. ความถูกต้องของแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่
3 ไม่น้อยกว่า 80%
4.
ความถูกต้องของแบบประเมินผลการเรียนรู้หน่วยที่ 3 ไม่น้อยกว่า 80%
5.
เกณฑ์การประเมินคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้นให้อยู่
ในดุลพินิจของครูผู้สอนและให้ประเมินตามสภาพจริง
1. ความหมายของการเคลื่อนที่
1.1 การเคลื่อนที่ (Motion) หมายถึง
ขบวนการอย่างหนึ่งที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างต่อเนื่องตามเวลาที่ผ่านไป
โดยมีทิศทางและระยะทาง
1.2
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Rectilinear motion) หมายถึง
การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เป็นแนวเส้นตรงซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ว
เวลา ความเร่ง และระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ไปได้ (นันทพงษ์ ลายทอง และคณะ, 2549)
ลักษณะการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง สิ่งต่าง ๆ
ที่อยู่รอบตัวซึ่งมีการเคลื่อนที่นั้นจะมีการเคลื่อนที่แตกต่างกันออกไป เช่น การเคลื่อนที่ในแนวตรง แนวโค้ง เป็นวงกลม หรือกลับไปกลับมาในการที่เราจะพิจารณาว่าวัตถุมีการเคลื่อนที่หรือไม่ พิจารณาที่ มีการเปลี่ยนตำแหน่งหรือไม่ ถ้ามีการเปลี่ยนตำแหน่ง ถือเป็นการเคลื่อนที่
1.3 การบอกตำแหน่งของวัตถุ การบอกตำแหน่งของสิ่งต่าง
ๆ นั้นทำได้โดยการบอกตำแหน่งเทียบกับตำแหน่งหรือสิ่งที่สังเกตได้โดยง่าย ซึ่งเรียกว่า
ตำแหน่งอ้างอิงหรือจุดอ้างอิง
ซึ่งต้องเป็นจุดที่หยุดนิ่ง
2. ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่
2.1
เวลา (Time, t) การที่จะทราบว่าวัตถุเคลื่อนที่หรือไม่
จะเริ่มจากการสังเกตวัตถุนั้นในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งจุดที่เริ่มสังเกตจะนับเวลาเริ่มต้น
ณ จุดนั้นมีค่า t = 0 จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป วัตถุจะมีการเปลี่ยนตำแหน่ง
ช่วงเวลาที่สังเกตจะเป็นเวลาที่วัตถุเคลื่อนที่ซึ่งถ้าไม่ทราบค่าแน่นอนจะใช้ t แทนช่วงเวลาดังกล่าว
โดยมีหน่วยเป็นวินาที (s)
2.2 ระยะทาง (Distance, s) หมายถึง แนวเส้นที่วัตถุเคลื่อนที่ไปโดยนับจากจุดเริ่มต้นอ้างอิง
ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป
การวัดระยะทางจะวัดตามแนวทางที่วัตถุเคลื่อนที่ไป ถ้าวัตถุเคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงก็วัดระยะทางได้ง่ายขึ้น
แต่ถ้าแนวทางไม่เป็นเส้นตรงก็จะวัดระยะทางได้ลำบาก
ระยะที่วัตถุเคลื่อนที่ไปได้ตามเส้นทางที่วัตถุนั้นเคลื่อนที่จริง
ๆ โดยไม่คำนึงว่าวัตถุ
จะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงหรือไม่
ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์
2.3
การกระจัด (Displacement, d) หมายถึง การที่วัตถุเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
โดยการเคลื่อนที่จากตำแหน่งเริ่มต้นไปยังตำแหน่งสุดท้าย
โดยมีทิศทางจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วยเป็นเมตร (m)
(นันทพงษ์ ลายทองและคณะ,
2549)
รูป ภาพที่ 3.2 การกระจัด
สรุป
ระยะห่างตามแนวเส้นตรงระหว่างจุดเริ่มต้นถึงจุดสุดท้าย เป็นปริมาณ
เวกเตอร์
มีขนาดเท่ากับระยะห่างและทิศทางจากจุดเริ่มต้นถึงจุดสุดท้าย
ข้อเปรียบเทียบระหว่างระยะทางกับการกระจัด
1. ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์
2. ขนาดของระยะทางจะมากกว่าการกระจัดเสมอ
ถ้าวัตถุนั้นไม่ได้เคลื่อนที่ใน
แนวเส้นตรงตลอด เช่น วัตถุหนึ่งเคลื่อนที่จาก A ไปทางทิศตะวันออก ถึง B เป็นระยะทาง 12 เมตร แล้วเคลื่อนที่ต่อไปทางทิศเหนือ ถึง C เป็นระยะ 5 เมตร
3.
ขนาดของระยะทางกับการกระจัดมีโอกาสเท่ากันได้
ถ้าวัตถุนั้นเคลื่อนที่โดย
ไม่มีการเปลี่ยนทิศทาง
2.4 อัตราเร็ว คือ ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ในหนึ่งหน่วยเวลาเป็นปริมาณ
สเกลาร์
ไม่คำนึงถึงทิศทาง มีหน่วยเป็นเมตร
/ วินาที
2.5 ความเร็ว (velocity) คือ
ระยะการเปลี่ยนแปลงการกระจัดหรือระยะการเปลี่ยนตำแหน่งที่เกิดขึ้นในหนึ่งหน่วยเวลา เป็นปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วยเป็นเมตร / วินาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น